คุณแพ้ไรฝุ่นหรือไม่?

 

อยู่ดีๆก็จามสงสัยอากาศจะเปลี่ยน หรือฝุ่นในบ้านเยอะเกินไปนะ ซึ่งฝุ่นที่กระจายไปทั่วบ้านทั้งในอากาศ หรือกระจายตามพื้นที่บริเวณต่างๆของบ้านนั้น หลายๆคนคงคิดแค่ว่ามาจากนอกบ้าน หรือจากที่เราไม่ได้ทำความสะอาดบ้านแน่เลย แต่! ช้าก่อนฝุ่นมันมีอะไรมากกว่าที่เราคิดเยอะ เนื่องจากฝุ่นนั้นอาจมาจากซากของตัวไรฝุ่นที่เกาะอยู่ตามข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านของเราก็ได้นะ เพียงแค่เรามองไม่เห็นตัวมันเท่านั้นเอง

ไรฝุ่นอันตรายแค่ไหนกัน

       สำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้ หรือคนที่ร่างกายมีความไวต่อสภาพอากาศนั้น ใน "มูล" รวมถึง "ซากที่ตายแล้วของไรฝุ่น" จะกลายเป็นเป็นโปรตีนของเสียจากตัวไรฝุ่นเองที่สามารถฟุ้งกระจายไปทั่วอากาศภายในบ้าน และลอยเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจของเราได้อย่างง่ายดาย ทำให้ร่างกายเรามีอาการภูมิแพ้ตามมา เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งแปลกปลอมที่ผ่านเข้าไปทางระบบทางเดินหายใจด้วยการผลิตสารภูมิต้านทานโดยเฉพาะขึ้นมา และจำว่าสารนั้นเป็น "สารก่อภูมิแพ้" หากเราเจอกับสารก่อภูมิแพ้นั้นๆในครั้งต่อไปก็จะปล่อยสารฮีสทามีนที่ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ตามมาอีกนั่นเอง

ภูมิแพ้ไรฝุ่น

      โรคภูมิแพ้ เกิดจากภูมิคุ้มกันของร่างกายไวต่อโปรตีน หรือสารก่อภูมิแพ้จากสิ่งแวดล้อม ซึ่งตามปกติสารเหล่านี้จะไม่มีผลอันตรายต่อผู้ที่มีภูมิคุ้มกันปกติ ในทางกลับกัน ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้จะไวต่อฝุ่น เชื้อราในอากาศ ขนสัตว์ เกสรดอกไม้ หรือแม้แต่อาหารที่รับประทานเป็นประจำ ซึ่งภูมิแพ้ก็มาจากปัจจัยทางพันธุกรรมได้ด้วยถ้าพ่อแม่มีประวัติเคยเป็นภูมิแพ้มาก่อน โดยตัวการที่ทำให้เกิดอาการแพ้ เรียกว่า สารก่อภูมิแพ้ (allergens) หรือสิ่งกระตุ้น ซึ่งอาจเข้าสู่ร่างกายทางระบบหายใจ การรับประทานอาหาร การสัมผัสทาง ผิวหนัง หรือถูกกัดต่อยผ่านผิวหนัง การสัมผัสทางตา ทางหู หรือทางจมูกก็สามารถทำให้เกิดการแพ้ได้     

       โดยภูมิแพ้ไรฝุ่นนั้น เราจะแพ้ได้ทั้งตัวไรฝุ่นเอง ซากไรฝุ่นที่ตายแล้ว และมูลไรฝุ่น ซึ่งส่วนใหญ่ตัวก่อภูมิแพ้ที่สำคัญคือ มูลไรฝุ่น ที่สามารถแบ่งการก่อโรคภูมิแพ้ไรฝุ่นได้ 2 ชนิดที่พบบ่อยในฝุ่นบ้านและก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ ได้แก่ โรคภูมิแพ้ไรฝุ่นชนิด Dermatophagoides pteronyssinus (DP) และ Dermatophagoides farinae (DF) สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการแพ้ต่อสารก่อภูมิแพ้ไรฝุ่นมักจะมีอาการคัน จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล คันตา แสบตา เคืองตา น้ำตาไหล คันคอ ไอ หรือหอบหืดในเวลากลางคืนหรือช่วงตื่นนอน ซึ่งเป็นอาการของโรคภูมิแพ้ในระบบทางเดินหายใจ และตา (เยื่อบุตาอักเสบจากภูมิแพ้)

จัดการไรฝุ่นยังไงดี

        เมื่อเรารู้แล้วว่าเป็นภูมิแพ้ไรฝุ่น หรือถ้ายังไม่ได้เป็นภูมิแพ้ก็ตาม แต่! อยากจัดการกับไรฝุ่นให้หมดไปสักทีจะต้องทำอย่างไร การจัดการกับไรฝุ่นเป็นเรื่องที่ยาก เพราะไรฝุ่นมีขาที่แข็งแรงในการเกาะจับเส้นใย และมีถึง 8 ขาจึงสามารถยึดตัวไว้กับเส้นใยได้ แม้เราจะใช้เครื่องดูดฝุ่นแรงดีๆไรฝุ่นก็ยังต้านแรงดูดจากเครื่องดูดฝุ่นได้ ตัวไรฝุ่นจึงหลุดออกมาได้ยากมาก จึงต้องมีการป้องกันง่ายๆคือ จัดบ้านให้เรียบร้อย ให้บ้านปลอดโปร่งเนื่องจากไรฝุ่นไม่ชอบแสงสว่าง หมั่นทำความสะอาดบ้านเป็นประจำเพื่อไม่ให้มีฝุ่นเกาะ เช็ดทำความสะอาดข้าวของเครื่องใช้เสมอ และที่สำคัญควรมีตัวช่วยเพิ่มเพื่อเป็นการ "กำจัดไรฝุ่น" นั่นคือ

        ไมท์เฟียร์ สเปรย์กำจัดไรฝุ่น (Mite Fearr) ที่มีการวิจัยที่ได้รับการสนับสนุนจาก สวทช. (สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ) และได้รับการทดสอบในห้องปฏิบัติการ ศูนย์บริการและวิจัยไรฝุ่นศิริราชหลายครั้งเพื่อความแม่นยำ และผลลัพธ์ที่ได้ คือ สามารถกำจัดไรฝุ่นและลดสารก่อภูมิแพ้ได้ 100 %

ไมท์เฟียร์ ใช้ยังไง

ใช้ได้ 2 วิธี คือ

  1. ฉีดสเปรย์ให้ทั่วที่นอนแล้วใช้ผ้าห่มหนาๆ หรือพลาสติกคลุมไว้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง หรือเรียกว่า การรม” โดยการรมในสัปดาห์แรกจะฉีด 2 ครั้งเพื่อให้ไรฝุ่นตัวเต็มวัยตายหมด ยกเว้นไข่จะตายแค่ครึ่งหนึ่ง

  2. ฉีดให้ "สัมผัสโดยตรง" กับหมอน พรม ผ้าม่าน โซฟา ตุ๊กตา

ซึ่งทั้งสองวิธีนี้ในเดือนแรกฉีด 2 ครั้ง อาทิตย์เว้นอาทิตย์ แล้วฉีดซ้ำทุกๆ 1 - 2 เดือน